เครดิตบูโร คือข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของแต่ละคน ซึ่งตัวข้อมูลนี้จะถูกจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด โดยแบ่งการจัดเก็บข้อมูลนี้ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวตนของลูกค้า และข้อมูลด้านสินเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวงเงินก้อนโต บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ฯลฯ ที่สถาบันการเงินอนุมัติให้ รวมถึงประวัติการชำระหนี้ของลูกค้าด้วย
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะมีบัตรเครดิตมาแล้วกี่ใบ ใช้บัตรกดเงินสดไปกี่ครั้ง หรือขอสินเชื่อต่าง ๆ ไปแล้วกี่หน มีพฤติกรรมการชำระหนี้อย่างไรบ้าง เป็นคนที่จ่ายตรงเวลา หรือค้างชำระบ่อย พฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนแต่จะถูกเก็บบันทึกไว้ที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ทั้งหมดเลยล่ะค่ะ
เปรียบง่ายๆ ให้เห็นภาพว่า เครดิตบูโร ก็เหมือนสมุดพกวัยเยาว์ที่มีครูมาจดบันทึกพฤติกรรมรายงานผู้ปกครองนั่นเองค่ะ เพียงแต่รอบนี้เค้าไม่ได้รายงานให้พ่อแม่เรารู้ แต่บันทึกเป็นรายงานพฤติกรรมการชำระเงินหรือหนี้ ให้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่คุณจะไปขอทำธุรกรรมทางการเงินด้วย เพื่อเป็นการประกอบการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อต่าง ๆ ที่คุณต้องการ
ดังนั้น หากคุณมีพฤติกรรมการชำระเงินแบบไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ จ่ายบ้าง ไม่จ่ายบ้าง หรือจ่ายคืนเพียงแต่ยอดขั้นต่ำตลอด แน่นอนว่า ข้อมูลเหล่านี้ย่อมได้รับการบันทึกไว้เป็นรายงานให้กับธนาคาร สถาบันการเงิน รวมถึงบริษัทที่ปล่อยสินเชื่อที่คุณจะไปติดต่อขอใช้บริการ เพื่อประเมินถึงความสามารถในการชำระเงินคืนของคุณค่ะ
ด้วยเหตุนี้ เครดิตบูโร จึงมีความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ แต่ยังช่วยปกป้องเงินฝากแก่ธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทผู้ปล่อยสินเชื่อต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ หนี้กองทุน ซึ่งย่อมากจาก กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินค่ะ
ตัวเลข เครดิตบูโรคืออะไร บอกสถานะการชำระหนี้ได้อย่างไร
10 คือ มีการชำระสินเชื่อตามปกติ จ่ายครบ จ่ายตรงตามเงื่อนไข ไม่มียอดค้างชำระ หรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน
11 คือ ปิดบัญชีสินเชื่อแล้ว ไม่มีหนี้ค้าง
12 คือ การพักชำระหนี้ตามนโยบายรัฐ ซึ่งก็หมายถึง เคยมียอดค้างชำระ แต่ปัจจุบันได้เข้าโครงการพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ จึงทำให้สถานะ = ไม่เป็นการค้างชำระ
20 คือ หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน หมายถึง มีการค้างชำระในอดีต และปัจจุบันก็ยังคงค้างชำระอยู่ ถือเป็นสถานะที่ส่งผลเสียต่อลูกหนี้ในการขอสินเชื่อต่อไป
ตรวจเช็กเครดิตบูโร
ตัวช่วยประเมินโอกาสในการขอสินเชื่อ ไม่ว่าจะขอกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ สมัครบัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทต่างๆ คุณสามารถตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองก่อนได้ว่า จะมีโอกาสกู้ผ่านมากน้อยแค่ไหน หากข้อมูลเครดิตบูโรของคุณ ยังมีเลข 20 ซึ่งหมายถึง มีหนี้ค้างชำระอยู่หลายบัญชี ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า ธนาคารอาจจะไม่อนุมัติสินเชื่อให้ เพราะเมื่อพิจารณาข้อมูลจากเครดิตบูโรของคุณแล้ว ตัวเลขนี้สื่อให้เห็นว่าคุณมีแนวโน้มหาเงินมาจ่ายหนี้ก้อนใหม่ไม่ไหว
ใช้เอกสารสำคัญประกอบการสมัครงาน ต้องบอกก่อนว่าเป็นในบางสายงานเท่านั้น ที่จะขอดูข้อมูลเครดิตบูโร เพื่อตรวจสอบความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งในบางตำแหน่งงาน อาจจะถูกขอให้แสดงเครดิตบูโรของตนเอง เพื่อประกอบการพิจารณาเข้าทำงานได้
การเช็กเครดิตบูโรของตัวเองมีความสำคัญที่ช่วยให้รู้ว่า สถานะทางการเงินของเราเป็นอย่างไร จึงช่วยให้เราสามารถวางแผนเกี่ยวกับการเงินของตัวเองได้ ถ้าเรามีหนี้อยู่ ตอนนี้เรามีหนี้ก้อนไหนบ้าง แล้วประวัติการชำระหนี้เราดีหรือเปล่า บัญชีที่ปิดหนี้ไปครบแล้วมียอดเป็น 0 แล้วหรือยัง ที่สำคัญคืออย่าลืมเช็กประวัติการค้างชำระด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะหากไม่ถูกต้อง เราสามารถขอแก้ไขได้ ช่วยป้องกันการเป็นหนี้ที่เราไม่ได้ก่อ เพราะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบได้ว่า มีใครแอบอ้างนำข้อมูลส่วนตัว ไม่ว่าจะสำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารการเงินต่าง ๆ ไปแอบอ้างเพื่อขอสินเชื่อกับธนาคาร หรือสถาบันการเงินใดๆ หรือไม่ จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องการเกิดหนี้จากมิจฉาชีพนั่นเองค่ะ
ปัจจัยในการกู้ไม่ผ่าน
ประวัติไม่เข้าตาสถาบันการเงิน
การขอกู้สินเชื่อสถาบันการเงินจะมีนโยบายหลักเกณฑ์และคุณสมบัติที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนและแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น อายุ รายได้ ประวัติการเงิน หรือ ภาระหนี้ ซึ่งหากมีข้อใดที่ขาดตกบกพร่อง หรือไม่ผ่านคุณสมบัติก็อาจะทำให้กู้ไม่ผ่านได้ค่ะ
ความสามารถในการชำระหนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ
สถาบันการเงินจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ว่าจะสามารถชำระหนี้ได้อย่างสม่ำเสมอหรือไม่ โดยวัดจากสลิปเงินเดือน และหนี้สินของผู้กู้ ซึ่งหากมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินหรือสัดส่วนค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนสูง ก็มีสิทธิ์ที่จะขอสินเชื่อไม่ผ่านได้ค่ะ
หลักประกันความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อ
ยกตัวอย่าง เช่น หลักค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันค่ะ หากหลักประกันมีความไม่น่าเชื่อถือ อาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณาขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ค่ะ
ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาของลูกหนี้
หากผู้ขอสินเชื่อ เคยมีการยื่นขอสินเชื่อผ่านก่อนหน้านี้ สถาบันการเงินจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้จากประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา
ขึ้นชื่อว่าเครดิตของเราแล้ว เชื่อว่าต่างก็มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับผู้กู้ทุกท่านแล้วการทำให้เรามีเครดิตที่ดี ย่อมส่งผลดีต่อตัวเราและส่งผลดีต่อการขอสินเชื่อในครั้งต่อไปได้นะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ