เงินเดือนเท่านี้ ซื้อคอนโดราคาเท่าไหร่

คอนโด คือทรัพย์สินที่หลาย ๆ คนต่างก็ไฝ่ฝันที่จะมี เมื่อได้เริ่มต้นของการทำงงานหลาย ๆ ก็มีเป้าหมายที่จะมีบ้านสวย ๆ สักหลังเป็นของตนเอง เพื่อเป็นการขยับขยายรากฐานชีวิตของตนเองด้วยการซื้อบ้านให้ดียิ่งขึ้น แต่ทว่าด้วยมูลค่าของบ้านนั้นมีราคาที่สูงมากเกินจะเอื้อมถึงสำหรับหลาย ๆ คนทำให้การซื้อบ้านด้วยเงินสดนั้นอาจจะเป็นไปได้ยาก การขอสินเชื่อจากธนาคารต่าง ๆ เพื่อกู้ซื้อบ้านนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ไฝ่ฝันอยากจะมีบ้านเพื่ออยู่อาศัยเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ และวันนี้แฟรี่คอนโดได้นำข้อมูลในการขอสินเชื่อมาฝากผู้อ่านทุก ๆ ท่านค่ะ โดยปกติแล้วเวลาจะยื่นขอกูซื้อคอนโด ทางธนาคารเค้าจะดูจากรายได้หรือเงินเดือนเป็นหลักค่ะ โดยจะคิดจากความสามารถในการชำระหนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะพิจารณาโดยให้มีภาระหนี้รวมทั้งหมดไม่เกิน 40% ของรายได้ โดยจะสามารถคำนวณได้ดังนี้ค่ะ วงเงินกู้คอนโดสามารถทำการคำนวณได้โดยคำนึงถึง รายได้ของผู้ที่ยื่นกู้ 3 ปัจจัย ได้แก่ รายรับ รายจ่าย และประวัติการชำระหนี้ค่ะ การประเมินรายรับ ก่อนที่จะประเมินวงเงินกู้สูงสุดนั้น เราต้องย้อนกลับมามองก่อนว่าตนเองมีรายรับประจำ (เงินเดือนประจำ) เข้ามาเท่าไหร่ ซึ่งทางธนาคารเค้าก็จะกำหนดอัตราการผ่อนชำระรายเดือนคร่าวๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 40% ของรายรับในแต่ละเดือน ตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายรับเดือนละ 20,000 บาท เท่ากับว่าความสามารถในการผ่อนชำระสูงสุดของคุณคือ 8,000 บาทนั่นเอง และถ้าหากธนาคารคำนวณแล้วว่าคอนโดหลังที่คุณต้องการมีมูลค่าสูงเกินกว่าจะชำระเงินงวดรายเดือนได้ ก็อาจทำให้การอนุมัติเป็นไปได้ยากค่ะ ประเมินหนี้สินและรายจ่าย โดยปกติ ที่ธนาคารกำหนดคร่าว ๆ ไว้ว่าอัตราการผ่อนชำระรายเดือนต้องไม่เกิน 40% นั้น เป็นเพราะต้องการให้อีก 60% สามารถเป็นรายได้ช่วยในการดำรงชีพ แต่ถ้าหากผู้ยื่นกู้มีหนี้สิน ก็มีส่วนที่ทำจะให้วงเงินกู้ลดลงเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างเช่น คุณมีรายรับเดือนละ 20,000 บาท แต่มีหนี้สินที่ต้องจ่ายเดือนละ 4,000 บาท ธนาคารจะทำการหักรายจ่ายแล้วประเมินรายรับที่เหลือทำให้รายรับของผู้กู้เหลือเพียง 16,000 บาทเท่านั้นค่ะ

เท่ากับว่า คุณจะมีกำลังผ่อนชำระสูงสุดเพียง 40% ของ 16,000 = 6,400 บาท ตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ปกติ ประวัติการชำระหนี้นั้นนอกจากจะมีผลต่อการอนุมัติการขอสินเชื่อจากธนาคาร ยังมีผลต่อวงเงินกู้สูงสุดอีกด้วยนะคะ ถ้าหากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ปกติบ่อยครั้ง แต่ในปัจจุบันมีรายรับที่มั่นคง ธนาคารก็อาจผ่อนผันอนุมัติสินเชื่อให้ได้ แต่อาจได้วงเงินที่ต่ำลงกว่าปกติ วิธีคำนวณวงเงินกู้คอนโดสูงสุดของธนาคาร เมื่อทราบวิธีการคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือนกันแล้ว เรามาคำนวณกันเลยค่ะว่าวงเงินกู้คอนโดสูงสุดนั้นจะได้เท่าไหร่กัน ซึ่งการคำนวณโดยคร่าว ๆ นั้นสามารถทำได้อย่างง่าย ๆ เพียงนำความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือนมาคูณกับ 150 ก็จะสามารถประมาณวงเงินกู้สูงสุดได้แล้วล่ะค่ะ ตัวอย่างเช่น ผู้ยื่นกู้มีรายรับประจำ 30,000 บาท เท่ากับสามารถผ่อนชำระได้เดือนละ 12,000 บาท หมายความว่าจะสามารถขอวงเงินกู้สูงสุดได้ที่ 12,000 x 150 = 1,800,000 บาทค่ะ เปรียบเทียบปริมาณเงินเดือนที่จะสามารถกู้ได้ เงินเดือน 15,000 กู้ซื้อคอนโดราคา 900,000 ได้ เงินเดือน 20,000 กู้ซื้อคอนโดราคา 1,200,000 ได้ เงินเดือน 30,000 กู้ซื้อคอนโดราคา 1,800,000 ได้ เงินเดือน 40,000 กู้ซื้อคอนโดราคา 2,400,000 ได้ เงินเดือน 50,000 กู้ซื้อคอนโดราคา 3,000,000 ได้ เงินเดือน 60,000 กู้ซื้อคอนโดราคา 3,600,000 ได้ เงินเดือน 100,000 กู้ซื้อคอนโดราคา 6,000,000 ได้ ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงค่าประมาณการให้พอเห็นภาพเพื่อเป็นเเนวทางในการวางแผนทางการเงินเท่านั้นค่ะ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทางธนาคารเค้าจะนำมาร่วมประกอบการพิจารณาด้วย อีกทั้งก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายการปล่อยสินเชื่อของเเต่ละธนาคารที่มีความแตกต่างกันไปด้วยนะคะ อยากได้วงเงินกู้ซื้อคอนโดเพิ่ม ต้องทำอย่างไร? รวบรวมเงินเก็บ เพื่อใช้กู้เงินซื้อคอนโดในส่วนที่ไม่ได้รับอนุมัติ หาคนกู้ร่วมซื้อคอนโด โดยแนะนำให้เป็นบุคคลภายในครอบครัว เพื่อง่ายต่อการได้รับอนุมัติ (อัพเดทเงื่อนไขธนาคารแห่งประเทศไทยผ่อนปรนมาตราการ LTV เพื่อบรรเทาผลกระทบกรณีกู้ร่วม) ถ้าคิดกันเเล้วหนี้ผ่อนคอนโดที่เหมาะสมต่อมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ และไม่ทำให้เป็นภาระหนักเกินไป ก็คือไม่ควรเกิน 30% ของเงินเดือนหรือรายได้ เเต่ถ้าไม่มีภาระหนี้สินอื่น ๆ เลย อาจขยับไปถึง 40% ยิ่งถ้าเราผ่อนมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะลดลงและหนี้ก็จะหมดเร็วขึ้นเท่านั้นเลยล่ะค่ะ

ภาระหนี้สินทั้งหมด ไม่ว่าจะผ่อนคอนโด ผ่อนรถ หรือบัตรเครดิตต่าง ๆ รวมแล้วเราไม่ควรเป็นหนี้เกินกว่า 50% ของเงินเดือนหรือรายได้ เพราะถ้าหากมากกว่านี้อาจจะทำให้สภาพคล่องทางการเงินที่ใช้ในการดำเนินชีวิตนั้นลำบากได้ค่ะ ดังนั้นต้องจัดการให้สมดุลกันนะคะ เพื่อความสุขในการใช้ชีวิตของเราและคนรอบข้างด้วยค่ะ