ถ้าหากใครอยากหาที่เที่ยวช่วงนี้ ที่เป็นที่หนึ่งด้านความสูง ที่สูงที่สุดถึง 100ชั้น ที่จะทำให้ใครที่ได้มาสามารถมองเห็นวิวในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน สามารถมองเห็นพื้นที่กรุงเทพในรูปแบบมุมสูงที่สวยงามมาก เห็นวิวได้รอบตัว จึงกลายเป็นสถานที่เที่ยวที่สวยงามที่ต้องมาลองเที่ยวที่นี่ให้ได้ซักครั้ง นั่นคือเอเชียทีค ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 450เมตร ตั้งสวยงามตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เอเชียทีค อยู่ที่ไหน เรียกได้ว่าอยู่ในย่านที่เจริญและศิวิไลซ์ที่สุดบนถนนเจริญกรุง มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวในตัว และที่พักประเภทโรงแรมอยู่ในที่เดียวกัน อีกทั้งยังมีพื้นที่สำนักงาน และพื้นที่ร้านค้าปลีก ที่มีสินค้ามากกว่า10,000รายการ ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก สินค้าตกแต่งบ้าน มีร้านค้ามากกว่า1,500ร้านค้า รวมกันอยู่ที่แห่งนี้ และยังมีโรงละครที่สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 400กว่าที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงละครย้อนยุค ที่แสดงถึงศิลปะ และวัฒนธรรมไทย โรงละครเวทีที่มีการแสดงสุดอลังการ โรงละครพีเรียดต่างๆ เป็นสถานที่เที่ยที่มีความเจริญสูง
ตั้งอยู่ในละแวก ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร ซึ่งพื้นที่เดิมคือ เคยเป็นพื้นที่ของวัดพระยาไกรมาก่อน เปิดมานานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5 ได้ถูกปรับปรุงเป็นท่าเรือ ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกัน จึงทำให้สามารถเดินทางมาเที่ยวที่แห่งนี้ ได้หลายวิธี พวกเรา fairycondo จะพาทุกคนไปดูกันว่า จะเดินทางไปเที่ยวที่เอเชียทีค ให้สะดวกที่สุดนั้นมีเส้นทางไหนกันบ้าง หากต้องการเดินทางไปชมซึ่งมี 1.หลุมหลบภัยสมัยสงครามโลก, 2.รางรถโบราณ, 3. โรงเลื่อยเก่า, 4.เครนโรงเลื่อย, 5. ซุ้มโค้งโกดังสินค้า100ปี, 6. ท่าเรือประวัติศาสตร์, 7.เครนยกของริมน้ำ เพื่อนๆก็คงอยากจะรู้ เพราะเคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน สถานที่เหล่านี้ คือ7สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในเอเชียทีคนั่นเอง สำหรับการเดินทางไปเอเชียทีคไปยังไง เรามาดูวิธีแรกกัน เป็นวิธีสุดคลาสสิก สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางจากเส้นสีลม แล้วขับผ่าน btsช่องนนทรี, btsสุรศักดิ์ จากนั้นจะเจอทางขึ้นทางด่วนถนนจันทร์ เมื่อเราขับตรงไปเรื่อยๆ จนลงทางด่วนถนนจันทร์แล้ว ให้เราเลี้ยวขวาขึ้นถนนเจริญกรุง ก็จะเจอสถานที่ท่องเที่ยวสุดอลังการที่มีพร้อมทุกสิ่งอย่าง อย่างเอเชียทีคแล้ว หากใครที่อยู่แถวถนนเจริญกรุงอยู่แล้ว ก็ให้เดินทางเข้าซอยเจริญกรุง 72-76ได้เลย
เรามาดูวิธีต่อไปได้เลย ถ้าหากต้องการไปเที่ยวแบบไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการจราจรติดขัด ให้เสียอารมณ์นั้น ก็แนะนำให้เราวางแผนการเดินทางด้วยการไปเอเชียทีค bts นั่งรถไฟฟ้าที่ไหนก็ได้ใกล้บ้าน หรือเราจะเดินทางไปเอเชียทีค mrtก็ได้ แล้วลงที่สถานีบางหว้า แล้วไปต่อ bts จุดสำคัญคือที่เราจะต้องเลือกลงนั้น ไม่ว่าจะนั่ง bts หรือmrtคือเราต้องลงที่ bts สะพานตากสินเท่านั้น เมื่อเราเดินทางถึง bts ตากสินแล้ว ก็ให้เรามองหาแม่น้ำก่อนเลย จากนั้นให้ตรงไปที่ เรือฟรี ของ เอเชียทีค ซึ่งเค้าจะมีบริการ พาเข้าไปเที่ยว แบบฟรีๆ ถ้าไม่รู้ว่า อยู่ตรงไหน ก็ให้สังเกตุ ธงสีแดงเลือกหมู หรือจุดที่แถวยาวที่สุดนั่นแหละ บริเวณนั้นคือจุดขึ้นเรือ ซึ่งเรือจะมีชื่อ Asiatique The River Frontติดอยู่ที่เรือ เรือลำนั้น ก็จะพาเราล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ไปสู่ท่าเรือเอเชียทีค ที่เราต้องการจะเข้าไปเที่ยวนั่นเอง ซึ่งใช้เวลาในการนั่งเรือไม่นาน โดยประมาณเรารอขึ้นเรือไม่เกิน 15 นาที ซึ่งเวลาที่บริการนั้น ก็อยู่ในช่วงเวลา 16.00-23.30น. เท่านั้น เพราะฉะนั้น วางแผนการเที่ยวให้ดี ซึ่งเที่ยวสุดท้ายเราควรไปก่อนเวลา23.15น. เพื่อเผื่อเวลาตอนขากลับนั่นเอง
สำหรับใครที่อยู่ใกล้ท่าเรือน้ำนนท์ สามารถใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาได้เลย โดยให้เลือกเส้นทางเรือด่วน ไปวัดราชสิงขร แต่เหมาะสำหรับช่วงเวลาเย็นเท่านั้น เพราะจะมีการแวะไปส่งที่เอเชียทีคด้วย ส่วนท่าเรืออื่นๆ ให้เราสอบถามกระเป๋าเรือว่า ได้ผ่านเส้นทางเอเชียทีคหรือไม่ ก่อนที่จะขึ้นเรือทุกครั้ง เพราะบางลำก็ไม่ผ่าน แต่ถ้าหากเราเผลอนั่งท่าเรืออื่นไปแล้ว ก็ให้เรานั่งเรือไปลงที่ท่าเรือสาธร หรือสะพานตากสิน แล้วรอต่อเรือฟรีของทางเอเชียทีคได้เลย การเดินทางด้วยเรือ ก็เป็นวิธีเดินทางไปเอเชียทีคที่สะดวกเช่นกัน ได้ชมวิว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแสงสีสวยๆยามโพล้เพล้ อีกด้วย
เมื่อเราไปถึง เราก็จะได้เจอ ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ ที่จะพาเราย้อนวัยไปในตอนเด็ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาสุดแสนสนุก หากใครอยากไปย้อนวันวาน เอเชียทีคนั้น ก็ถือว่าเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจอันดับต้นๆเลยทีเดียว แล้วเอเชียทีคเสียค่าเข้าไหม ก็ต้องตอบตรงนี้เลยว่า ถ้าหากเพื่อน ต้องการเข้าไปเดินเที่ยวเฉยๆ ที่นี่ เค้าฟรี ทั้งค่าเรือที่เดินทางเข้ามา ฟรีทั้งค่าเข้าชม มาเดินกันให้เพลิดเพลินได้เลย ยกเว้นแค่ในส่วนของเอเชียทีค สกาย การจะเข้าไปที่แห่งนี้ ต้องซื้อบัตรเข้าที่ราคา200บาทสำหรับผู้ใหญ่ และราคา 150บาทสำหรับเด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120cm. ส่วนใครที่พาเพื่อนชาวต่างชาติเข้าไปด้วย ราคาบัตรชาวต่างชาติจะอยู่ที่ 250บาท ก็จะสูงกว่าราคาคนไทย เพราะฉะนั้น ให้อธิบายให้เพื่อนของเราเข้าใจด้วย ว่ามีความแตกต่างของค่าเงิน ระหว่างประเทศเรา และประเทศของเค้านั่นเอง ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ดีมาก รวมทุกอย่างไว้ที่นี่หมดแล้ว ถ้าหากเพื่อนๆอยากสนุกสุดเหวี่ยง ก็วางแผนเข้าพักที่โรงแรมของทางเอเชียทีคกันซะก่อน แล้วเที่ยวให้หน่ำใจกันยาวๆได้เลย