ถ้าหากเป็นสมัยก่อนนั้น การอยู่ตามเขตใกล้ป่าใกล้เขา ก็จะมีสัตว์ต่างๆเข้ามาอยู่อาศัยอยู่ตามบ้านด้วย อย่าง หนู, นก, สัตว์เลื้อยคลาย และ ตุ๊กแก แต่ปัจจุบันนี้นี้ ยุคสมัยได้เปลี่ยนไป จากสังคมแบบเก่าที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ เริ่มกลายเป็นสังคมในเมือง ผู้คนนิยมเข้าไปอยู่เป็นชุมชนใกล้ๆกันในตัวเมืองมากขึ้น เพราะมีแต่ความเจริญและความก้าวหน้ารออยู่ พื้นที่ในตัวเมืองจึงเต็มไปด้วยตึกอาคารบ้านช่อง และถนน เสียมากกว่า จึงทำให้ไม่ค่อยเจอสัตว์ต่างๆมาอาศัยอยู่ตามบ้าน แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูง ราคาบ้านที่แพงมาก จึงทำให้คนนิยมย้ายไปอยู่อาศัยตามเขตชานเมืองอีกครั้ง เพื่อปลูกบ้านห่างจากตัวเมืองออกมาหน่อย แต่ยังคงสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก จึงทำให้อาจจะมีปัญหากับสัตว์ต่างๆเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย วันนี้ fairycondo จึงได้นำเทคนิคดีๆมาฝาก ถ้าหากเพื่อนๆจะต้องเจอสัตว์แปลกหน้ามาขออยู่อาศัยที่บ้านด้วย อย่าง ตุ๊กแก
คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบ้านใคร ใครก็หวง แม้แต่ใครจะขอเข้ามาอยู่อาศัยด้วยก็ยังคิดแล้วคิดอีก แต่ถ้าหากเราต้องมาเจอกับสัตว์ที่ไม่ได้รับเชิญอย่าง ตุ๊กแก เข้ามาอยู่บ้านเราโดยไม่ได้ขออนุญาตเราเลยนั้น เราต้องหาวิธี จับตุ๊กแก เพื่อนำไปปล่อยให้ไกลจากบ้านเราอย่างเร่งด่วน หรือนำเค้ากลับไปอยู่ในป่าที่เดิมของเค้า เพราะการอยู่อาศัยในบ้าน ที่เต็มไปด้วยความน่าหวาดกลัว คงไม่ค่อยดีนัก จริงอยู่ที่ตุ๊กแกนั้นเป็นสัตว์ไม่มีพิษ และไม่ทำร้ายคน แต่การป้องกันเอาไว้ก่อนถือว่าเป็นเรื่องที่เราสามารถป้องกันได้ ดีกว่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลัง สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับตุ๊กแกและเป็นเรื่องที่น่ากังวลนั้น ก็คือ ตุ๊กแกกลัวคนไหม คำตอบก็คือ ถ้าหากเราเข้าใกล้ตุ๊กแกโดยที่เราไม่รู้ตัว ก็อาจจะทำให้ตุ๊กแกตกใจแล้วเข้ามากัดเราได้ ซึ่งใครๆก็คงไม่อยากถูกกัด เพราะตุ๊กแกกัดแรงมากถึงขั้นที่สามารถทำให้ต้องรักษาด้วยการเย็บหลายเข็มเลยทีเดียว นอกจากนี้ ตุ๊กแกอาจจะเป็นสาเหตุของเชื้อรา และเชื้อโรค ที่หากคนไปเผลอสัมผัสตรงที่ตุ๊กแกเคยเดินผ่าน หรือบริเวณที่ตุ๊กแกมาขับถ่าย อาจจะมีอาการที่เกียวกับโรคทางเดินอาหารได้อีกด้วย โดยเฉพาะในห้องครัว ซึ่งตุ๊กแกอาจจะเข้ามาหาอะไรกินตอนที่เราไม่อยู่ และอาจจะก่อให้เกิดเชื้อโรคในอาหารที่เราเก็บเอาไว้ได้
ซึ่งถ้ามีเพียงตัวเดียวอาจจะไม่เป็นไร แต่ถ้าหากตุ๊กแกอยู่ร่วมชายคาบ้านกับเรานานวันเข้า อาจจะวางไข่และเกิดลูกเกิดหลาน เริ่มสร้างอาณาเขต แล้วอยู่กันเต็มบ้านก็ได้ แค่คิดแบบนั้นก็กังวลกันแล้วใช่ไหม ถ้าหากเราไม่รีบดำเนินการใดๆ รอให้ถึงวันนั้น เราอาจจะหาทางแก้ไขได้ยากขึ้น ซึ่งเราก็มีวิธีดีๆที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแต่ดั้งเดิมนำมาบอกเพื่อนๆ ว่าตุ๊กแก กลัวอะไร ให้ลองนำไปใช้กันดู วิธีนั้นง่ายนิดเดียว ให้เพื่อนใช้มะกรูดที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้านนั่นแหล่ะ นำมาฝานเป็นชิ้นบางๆ แล้วใช้มะกรูดฝาน ถูๆให้ทั่วบ้าน โดยเน้นบริเวณที่เราคิดว่าน่าจะมีตุ๊กแกเดินผ่านมา ซึ่งลองคิดดูว่าตุ๊กแกชอบอยู่ที่ไหน อาจจะเป็นพื้นที่ในครัว, ใต้ชายคาบ้าน และภายนอกบ้าน เราอาจจะนำแชมพูผสมกับมะกรูดให้มีกลิ่นมะกรูดให้เข้มข้นมากๆ แล้วนำไปสาดให้ทั่วทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน หรือเพื่อนนำมะกรูดที่ผสมแชมพูแล้ว บรรจุใส่ในขวดแล้วฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณรอบบ้านได้ด้วยยิ่งดี เมื่อตุ๊กแกได้กลิ่นมะกรูด เค้าจะไม่ชอบเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อมะกรูดนั้นกลิ่นฉุนในแบบที่ตุ๊กแกไม่ชอบ แต่คนชอบ แล้วมะกรูดยังมีฤทธิ์เป็นกรด ทำบ่อยๆไปซักระยะหนึ่ง ตุ๊กแกได้กลิ่นมะกรูดบ่อยมากขึ้น เค้าเริ่มจะทนไม่ไหว ที่จะอยู่อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ร่วมกับเรา ผลลัพธ์ก็คือเค้าจะย้ายออกไปเอง ทำให้เราไม่ต้องฆ่าสัตว์ แต่วิธีนี้นั้น เราควรทำบ่อยๆอาทิตย์ละครั้ง เพื่อให้บ้านมีกลิ่นมะกรูดติดบ้านอยู่เสมอ เพราะไม่อย่างนั้น ฝนตกลงมาชำระล้างกลิ่นจนหายไปหมด ก็จะทำให้บ้านไม่มีกลิ่นมะกรูดแล้ว ตุ๊กแกก็อาจจะกลับมาได้อีกก็ได้
แต่ถ้าหากเพื่อนๆเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบกลิ่นมะกรูดเหมือนกัน เราจึงหาอีกวิธีไล่ตุ๊กแกมาให้อีกหนึ่งวิธี นั่นก็คือ การใช้เสียงไล่ ตุ๊กแก เพื่อทำให้ตุ๊กแกรำคาญ จนไม่อยากอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับเพื่อนๆนั่นเอง ซึ่งเพื่อนๆอาจจะสงสัยตุ๊กแกกลัวเสียงอะไร ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องใช้เสียงอะไรเป็นพิเศษเลย เพียงแค่ใช้ช้อนเคาะจานก็ได้แล้ว หรือนำไม้ไปเคาะๆบริเวณใกล้ๆที่ตุ๊กแกอยู่ แต่ถ้ารู้สึกว่าน่ากลัวเกินไปที่จะทำ ก็ทำให้บ้านเรามีเสียงรบกวนบ่อยๆ เพราะตุ๊กแกเป็นสัตว์ที่ชอบความสงบ ชอบอยู่บ้านที่เงียบ เมื่อเค้าได้ยินเสียงดังบ่อยๆ เค้าก็จะไม่อยากจะอยู่ร่วมด้วย และเดี๋ยวนี้ก็ยังมีเครื่องไล่ตุ๊กแกที่ช่วยส่งกระแสคลื่นเสียงออกมาทำให้ตุ๊กแกไม่ชอบวางขายอีกด้วย เพื่อนๆก็สามารถลองสั่งซื้อมาใช้ได้ แต่ถ้าทำไปทั้งหมดแล้วตุ๊กแกยังไม่ยอมไปไหนอีก เราคงต้องโทรเรียกเพื่อนบ้านที่เป็นผู้ชาย มาช่วยจับตุ๊กแก แล้วนำไปปล่อยป่า เพื่อให้เค้าได้กลับไปอยู่ที่สงบร่มรื่นจริงๆ ไม่ต้องมารบกวนที่บ้านของเพื่อนๆอีกต่อไป